Myanmar   Myanmar   Myanmar   Myanmar   Myanmar   Myanmar   Myanmar   Myanmar  Myanmar   Myanmar

รัฐ KAYAH

แม้จะเป็นรัฐที่เล็กที่สุดใน Myanmar แต่รัฐ Kayah นั้นมีขนาดที่ใหญ่โตหากจะกล่าวถึงในแง่ของความหลากหลายและประสบการณ์การเดินทางที่น่าอัศจรรย์ เป็นระยะเวลาเกือบครึ่งศตวรรษที่ปิดตายไม่เปิดต้อนรับผู้มาเยือน การเปิดตัวใหม่ในครั้งนี้ช่วยให้รัฐมีความรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นของ Myanmar ที่ส่องประกายความงดงามอันแท้จริงออกมา รัฐ Kayah คือ บ้านของเก้ากลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งเปิดโอกาสที่มากพอให้นักท่องเที่ยวได้ค้นพบวัฒนธรรมและมรดกที่หลากหลาย ชนเผ่าที่มีความโดดเด่นที่สุดคือ ชนเผ่า Kayah และ Kayan เป็นที่ทราบกันดีกันว่าชาว Kayah นั้นแต่งกายด้วยชุดสีแดงและสีสดใสในขณะที่ชาว Kayan เป็นที่จดจำได้ง่ายจากวงแหวนทองเหลืองที่สวมอยู่บริเวณลำคอ เมืองที่เรียบง่ายแห่งนี้มอบซึ่งการต้อนรับอันอบอุ่นในท้องถิ่นและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่น่าจดจำกับชนเผ่าต่างๆ ผ่านโครงการริเริ่มการท่องเที่ยวโดยชุมชน คนในพื้นที่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญและความรู้ในทักษะที่หลากหลายให้กับนักท่องเที่ยว

จุดกำเนิด

รัฐ Kayah ประกอบด้วยชนเผ่าที่แตกต่างกัน อาทิเช่น ชนเผ่า Kayah, Kayan, Bre, Lahta และชนเผ่า Yinbaw เป็นต้น ผู้คนในรัฐนับถือศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์และลัทธิวิญญาณนิยม ชาว Kayah พูดภาษา Kayah Li รวมถึงภาษา Myanmar/Burmese และภาษาอังกฤษบางส่วน

ลักษณะทางภูมิศาสตร์

ภูมิประเทศของรัฐ Kayah เต็มไปด้วยภูเขาและตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ Myanmar รัฐแห่งนี้มีชายแดนติดกับรัฐ Shan, รัฐ Kayin และประเทศไทย พื้นที่ของรัฐเท่ากับ 11,731.5 ตร.กม./4,529.6 ตารางไมล์ โดยทั่วไปแล้วพื้นที่ภูเขาจะมีสภาพอากาศที่เปียกและมีอากาศร้อนเล็กน้อยในขณะที่บริเวณตอนล่างจะมีภูมิอากาศแบบเขตร้อนและแบบลมมรสุม

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ

ชาว Kayah เป็นพวกวิญญาณนิยมและเชื่อในเรื่องของภูติผีปีศาจ เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในรัฐ Kayah มีชื่อว่า ‘เขื่อน Lawpita’ สตรีในกลุ่มรัฐ Kayah (กะเหรี่ยงแดง) ยังคงสวมแหวนทองเหลืองที่บริเวณรอบคอของพวกเขา

ค้นพบขนบธรรมเนียมและประเพณีอันมากมายหลายหลากที่รัฐขนาดเล็กแห่งนี้มีให้แก่ผู้มาเยือน

งานหัตถกรรมอันประณีต

หัตถกรรมมีบทบาทมากมายมหาศาลต่อชีวิต ศิลปะและจิตวิญญาณของชาว Kayah คนในพื้นที่ทำงานศิลปะจากไม้ไผ่และไม้ด้วยมือให้เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นได้ครบครันและมีทักษะที่สูงยิ่งในแต่ละงานฝีมือที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้น พวกเขามีชื่อเสียงมากที่สุดจากการสร้าง “Kaloe” หรือกีตาร์ที่ทำจากไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวมักจะซื้อตะกร้าและกระเป๋าถือที่ทำจากไม้ไผ่ผลิตโดยคนในหมู่บ้านเพื่อเป็นของที่ระลึก นอกจากนี้คนในพื้นที่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นช่างทอฝีมือเยี่ยมอีกด้วย ผ้าของพวกเขาย้อมด้วยสีธรรมชาติและทอบนกี่ทอเพื่อทำผ้าพันคอสีสันสดใสซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของที่ระลึก กลองหนังกบนั้นถือว่าเป็นมงคลและเป็นที่สักการบูชาของคนทั้งหมู่บ้าน เครื่องดนตรีทรงคล้ายเห็ดสัมฤทธิ์นั้นทำจากทองสัมฤทธิ์และใช้เล่นกันเฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น ส่วนไม้ไผ่และไม้ก็นำมาทำเป็นเครื่องใช้ในครัวสำหรับการปรุงอาหารและข้าวของของใช้ในครัวเรือนและคนในหมู่บ้านยังสร้างเครื่องประดับจากทองเหลืองและหินสังเคราะห์อีกด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคนในหมู่บ้านสามารถดำรงชีพได้ด้วยตนเองเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการทำงานศิลปะด้วยมือประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ที่มีประโยชน์

ชนเผ่าที่มีลักษณะเฉพาะ

จริงๆ แล้วกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายที่พบในรัฐ Kayah นั้นขยายตัวจากวัฒนธรรมของชาว Karen และกลุ่มชนเผ่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ ชนเผ่า Kayah, Kayan, Bre, Lahta และชนเผ่า Yinbaw ประเพณีและขนบธรรมเนียมที่แท้จริงนั้นสืบทอดกันอย่างเป็นจริงเป็นจังมาหลายชั่วอายุคน ส่งผลให้ผู้คนในชนเผ่าส่วนใหญ่ยังคงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม ชนเผ่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ชนเผ่า Kayah และ Kayan ทั้งสองกลุ่มชาติพันธุ์นั้นมีการพิสูจน์รูปพรรณได้ง่ายเนื่องด้วยชาว Kayah มักจะแต่งกายในชุดสีแดงขณะที่ชาว Kayan ยังคงสวมห่วงทองเหลืองที่ลำคอ เผ่า Kayan ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากมีคอที่ยาวอันเป็นผลมาจากการสวมห่วงที่บริเวณลำคอนั่นเอง ส่วนชาว Kayah เคยเป็นนักวิญญาณนิยมที่มีใจศรัทธาซึ่งมีส่วนร่วมในพิธีกรรม ‘Kayhtoboe’ ในพิธีกรรมนี้ สมาชิกในชนเผ่าจะทำการไหว้ผีโดยเซ่นไหว้ด้วยสัตว์และอาหารเพื่อขอให้ช่วยปกป้องคุ้มครองพวกเขา อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมด้านวิญญาณนิยมของชนเผ่าได้หยุดลงมานานแล้วและไม่ได้มีการปฎิบัติอย่างกว้างขวางอีกต่อไป

ขนบธรรมเนียมและประเพณีที่รักษาไว้

นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการต้อนรับอันอบอุ่นจากคนในพื้นที่ขณะร่วมเป็นประจักษ์พยานในความลึกซึ้งตั้งใจในการจัดแสดงพิธีกรรม งานศิลปะที่ต้องทำด้วยมือและการแสดงดนตรีของรัฐ ในขณะที่คนในพื้นที่บางรายนับถือวิญญาณนิยม (ความเชื่อที่ว่าสรรพสิ่งในธรรมชาติล้วนมีวิญญาณ) นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวัดแนววิญญาณนิยมและเยี่ยมชมรูปสลักบนเสาอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถพบได้ที่นั่น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมเป็นสักขีพยานในวิธีที่คนทรงเจ้าออกล่าสัตว์ สัมผัสประสบการณ์การขว้างหรือยิงสัตว์ด้วยก้อนหินและลิ้มลองอาหารเลิศรสที่พบได้ในรัฐแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เวียนตามความเชื่อที่เป็นประเพณีตกทอดเกี่ยวกับทักษะการดำรงชีวิตในป่าที่ถือเป็นตำนานของคนในพื้นที่ คนในพื้นที่จะนำผู้มาเยือนเดินเที่ยวชมป่าบนเส้นทางธรรมชาติ มีการออกไปปิกนิกในป่าและมีส่วนร่วมในมื้อบาร์บีคิวริมทะเลสาบเช่นเดียวกับคนท้องถิ่น กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้คนในพื้นที่ยังคงปฏิบัติตนตามประเพณีดั้งเดิมของพวกเขาต่อไป รวมทั้งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตที่แท้จริงของคนในพื้นที่

งานหัตถกรรมอันประณีต

หัตถกรรมมีบทบาทมากมายมหาศาลต่อชีวิต ศิลปะและจิตวิญญาณของชาว Kayah คนในพื้นที่ทำงานศิลปะจากไม้ไผ่และไม้ด้วยมือให้เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นได้ครบครันและมีทักษะที่สูงยิ่งในแต่ละงานฝีมือที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้น พวกเขามีชื่อเสียงมากที่สุดจากการสร้าง “Kaloe” หรือกีตาร์ที่ทำจากไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวมักจะซื้อตะกร้าและกระเป๋าถือที่ทำจากไม้ไผ่ผลิตโดยคนในหมู่บ้านเพื่อเป็นของที่ระลึก นอกจากนี้คนในพื้นที่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นช่างทอฝีมือเยี่ยมอีกด้วย ผ้าของพวกเขาย้อมด้วยสีธรรมชาติและทอบนกี่ทอเพื่อทำผ้าพันคอสีสันสดใสซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของที่ระลึก กลองหนังกบนั้นถือว่าเป็นมงคลและเป็นที่สักการบูชาของคนทั้งหมู่บ้าน เครื่องดนตรีทรงคล้ายเห็ดสัมฤทธิ์นั้นทำจากทองสัมฤทธิ์และใช้เล่นกันเฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น ส่วนไม้ไผ่และไม้ก็นำมาทำเป็นเครื่องใช้ในครัวสำหรับการปรุงอาหารและข้าวของของใช้ในครัวเรือนและคนในหมู่บ้านยังสร้างเครื่องประดับจากทองเหลืองและหินสังเคราะห์อีกด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคนในหมู่บ้านสามารถดำรงชีพได้ด้วยตนเองเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการทำงานศิลปะด้วยมือประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ที่มีประโยชน์

ชนเผ่าที่มีลักษณะเฉพาะ

จริงๆ แล้วกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายที่พบในรัฐ Kayah นั้นขยายตัวจากวัฒนธรรมของชาว Karen และกลุ่มชนเผ่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ ชนเผ่า Kayah, Kayan, Bre, Lahta และชนเผ่า Yinbaw ประเพณีและขนบธรรมเนียมที่แท้จริงนั้นสืบทอดกันอย่างเป็นจริงเป็นจังมาหลายชั่วอายุคน ส่งผลให้ผู้คนในชนเผ่าส่วนใหญ่ยังคงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม ชนเผ่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ชนเผ่า Kayah และ Kayan ทั้งสองกลุ่มชาติพันธุ์นั้นมีการพิสูจน์รูปพรรณได้ง่ายเนื่องด้วยชาว Kayah มักจะแต่งกายในชุดสีแดงขณะที่ชาว Kayan ยังคงสวมห่วงทองเหลืองที่ลำคอ เผ่า Kayan ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากมีคอที่ยาวอันเป็นผลมาจากการสวมห่วงที่บริเวณลำคอนั่นเอง ส่วนชาว Kayah เคยเป็นนักวิญญาณนิยมที่มีใจศรัทธาซึ่งมีส่วนร่วมในพิธีกรรม ‘Kayhtoboe’ ในพิธีกรรมนี้ สมาชิกในชนเผ่าจะทำการไหว้ผีโดยเซ่นไหว้ด้วยสัตว์และอาหารเพื่อขอให้ช่วยปกป้องคุ้มครองพวกเขา อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมด้านวิญญาณนิยมของชนเผ่าได้หยุดลงมานานแล้วและไม่ได้มีการปฎิบัติอย่างกว้างขวางอีกต่อไป

ขนบธรรมเนียมและประเพณีที่รักษาไว้

นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการต้อนรับอันอบอุ่นจากคนในพื้นที่ขณะร่วมเป็นประจักษ์พยานในความลึกซึ้งตั้งใจในการจัดแสดงพิธีกรรม งานศิลปะที่ต้องทำด้วยมือและการแสดงดนตรีของรัฐ ในขณะที่คนในพื้นที่บางรายนับถือวิญญาณนิยม (ความเชื่อที่ว่าสรรพสิ่งในธรรมชาติล้วนมีวิญญาณ) นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวัดแนววิญญาณนิยมและเยี่ยมชมรูปสลักบนเสาอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถพบได้ที่นั่น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมเป็นสักขีพยานในวิธีที่คนทรงเจ้าออกล่าสัตว์ สัมผัสประสบการณ์การขว้างหรือยิงสัตว์ด้วยก้อนหินและลิ้มลองอาหารเลิศรสที่พบได้ในรัฐแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เวียนตามความเชื่อที่เป็นประเพณีตกทอดเกี่ยวกับทักษะการดำรงชีวิตในป่าที่ถือเป็นตำนานของคนในพื้นที่ คนในพื้นที่จะนำผู้มาเยือนเดินเที่ยวชมป่าบนเส้นทางธรรมชาติ มีการออกไปปิกนิกในป่าและมีส่วนร่วมในมื้อบาร์บีคิวริมทะเลสาบเช่นเดียวกับคนท้องถิ่น กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้คนในพื้นที่ยังคงปฏิบัติตนตามประเพณีดั้งเดิมของพวกเขาต่อไป รวมทั้งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตที่แท้จริงของคนในพื้นที่

สถานที่ยอดนิยม

ชาวรัฐ Shan ตั้งชื่อเมืองหลวงของ Kayah ว่า Loikaw (‘loi’/ภูเขาและ ‘kaw’/แยก) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจุดกึ่งกลางระหว่างเทือกเขา Shwe Taung และเทือกเขา Thiri Mingalar Taung เมือง Loikaw มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นที่ตั้งของเจดีย์ Taung Kwe ซึ่งเป็นสถานที่ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของภูมิทัศน์ที่งดงามดั่งภาพวาดของเมืองหลวงแห่งนี้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังมาที่ Loikaw เพื่อเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ โบสถ์และชมงานศิลปะที่ทำด้วยมือแบบดั้งเดิมในตลาดที่ไม่อยู่เฉย

สถานที่ตั้งที่โดดเด่นของเมือง Loikaw ตั้งอยู่บนยอดเขา Thirri Mingala ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ที่รวมกันเป็นกลุ่ม ตั้งอยู่บนยอดเขาที่ความสูง 387 ฟุตเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับทัศนียภาพมุมกว้างซึ่งทอดยาวไปตามพื้นที่ของเมืองและภูมิประเทศซึ่งเต็มไปด้วยเนินเขา นอกจากนี้ยังเรียกกันว่า ‘ภูเขาหัก’ เนื่องจากสามารถพบเจดีย์หลากหลายองค์ได้บนหลากหลายชั้นของเนินเขา

ชาว Kayan และผู้หญิงที่มีลำคอยาวอาศัยอยู่ในเมือง Pan Pet ผู้หญิงในหมู่บ้านเริ่มสวมห่วงทองเหลืองที่คอตั้งแต่ยังเป็นเด็กซึ่งส่งผลให้มีลำคอที่ยาว ผู้หญิงบางคนสวมห่วงทองเหลืองที่ขาซึ่งจะคลายตัวเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น จากนั้นห่วงขาที่ถอดออกแล้วจะกลายเป็นกำไลข้อมือเพื่อจำหน่ายซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการท่องเที่ยวโดยชุมชน

ในหมู่บ้านแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมเป็นสักขีพยานถึงวิธีที่คนในพื้นที่ผลิตเครื่องแต่งกายของชาว Kayah แบบดั้งเดิมรวมถึงการทำเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิม Hta Nee La Leh มีไม้คานรูปสลักบนเสาของชาว Kayah แบบดั้งเดิมและห้องประชุมของหมู่บ้านที่คนทรงเจ้าในท้องถิ่นใช้ในการพยากรณ์และดูโชคชะตาให้แก่คนในหมู่บ้าน ผู้หญิงในหมู่บ้านนี้สวมใส่เครื่องประดับเงินและอะลูมิเนียมและห่วงลงรักใต้เข่า

ระหว่างที่เดินทางไปยังทะเลสาบ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับความงดงามอันแปลกตาของส่วนที่เป็นชนบทของเมือง Loikaw ทะเลสาบแห่งนี้ประกอบด้วยทะเลสาบอีก 7 แห่งที่มีช่องเล็กๆ ที่เชื่อมต่อถึงกัน ตั้งอยู่บนเนินเขา ทัศนียภาพที่สะท้อนบนทะเลสาบให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลายแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนพื้นที่ ทะเลสาบสามารถเข้าถึงได้โดยรถยนต์และรถโดยสารประจำทาง

Kyat Gu หรือถ้ำแห่งวิญญาณมอบซึ่งประสบการณ์ที่มุ่งทางจิตให้กับนักท่องเที่ยวผู้ที่ต้องการสำรวจถ้ำอันลี้ลับแห่งนี้ ถ้ำแห่งนี้ไร้ซึ่งการรบกวนและมีความเงียบสงบ ในถ้ำหินปูนมีกล่องไม้ที่แตกซึ่งเชื่อกันว่าเป็นโลงศพที่ชนเผ่าวางไว้ในถ้ำตั้งแต่ในอดีต นอกจากนี้คนในพื้นที่ยังเก็บมูลค้างคาวจากถ้ำเพื่อนำไปใช้เป็นปุ๋ยอีกด้วย

ท่านสามารถพบได้ตลาด De Maw Soe ได้ทางตอนใต้ของเมือง Loikaw ตลาดมีชื่อเสียงในการจำหน่ายเหล้าโรงแบบดั้งเดิม พ่อค้านั้นเป็นมิตรและเต็มไปด้วยการเอาใจใส่ซึ่งพวกเขามักจะเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวให้ลิ้มลองเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมกันมากและอาหารท้องถิ่นอันเลิศรสอื่นๆ ที่ไม่สามารถลิ้มลองได้จากที่ใดนอกรัฐหรือนอกประเทศ เช่น ไส้กรอก Kayah และลูกชิ้นที่ทำจากพริกไทย Kayah ที่มีลักษณะเฉพาะ เป็นต้น

มีบริการทัวร์รอบๆ ศูนย์ทอผ้าและสวนอินทรีย์สำหรับผู้มาเยือนที่ต้องการสำรวจกระบวนการทอผ้าและกระบวนการย้อมสีธรรมชาติแบบดั้งเดิม ผู้เชี่ยวชาญและผู้ฝึกสอนจากศูนย์จะนำเสนอรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับศิลปะการทอผ้ารวมไปถึงการแสดงการผลิตสีจากธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถทดลองย้อมผ้ารวมถึงร่วมเป็นสักขีพยานในการทอชุดแต่งกายประจำชาติของชาว Kayah ด้วยวิธีที่แตกต่างกันและเลือกชมผลิตภัณฑ์ผ้าทอบางชนิดเพื่อซื้อหาเป็นของที่ระลึกได้

ถ้ำที่เป็นที่ตั้งของรูปปั้นพระพุทธเจ้าปางประทับนั่ง 10 องค์สามารถพบได้ใกล้กับน้ำตก Htee Se Kha หินงอกและหินย้อยสุดอลังการที่ประดับประดาบริเวณด้านในของถ้ำประกอบกับรูปปั้นของพระพุทธเจ้าช่วยสร้างให้ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังสามารถพบเห็นลิงแม็กแคกได้ในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย นอกเหนือจากการไปเยือนถ้ำแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านใกล้เคียงและสัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตของคนในพื้นที่ได้อีกด้วย

มีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจจากการค้นพบถ้ำ ตามตำนานแล้ว มีชาวบ้านคนหนึ่งพบถ้ำตามสิ่งที่เขาเห็นในความฝันของตนเอง นับตั้งแต่มีการค้นพบ เจดีย์ 15 องค์ถูกสร้างขึ้นและพบรูปปั้น 254 รูปในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ วัตถุประสงค์ของการสร้างเจดีย์ก็คือ เพื่อนำสุขภาพที่ดีและความมั่งคั่งให้กับคนในพื้นที่นั่นเอง

เทศกาลต่างๆ

เทศกาล Kayah

เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อจดจำถึงการต่อสู้ดิ้นรนของผู้นำชาว Kayah ที่ต่อสู้กับพวกจักรวรรดินิยมอังกฤษ จัดขึ้นในช่วงต้นปีเป็นประจำทุกปีเป็นเวลา 10 วัน คนในพื้นที่จะมารวมตัวกันที่ Kandarawady เมือง Loikaw เพื่อเข้าร่วมในการแข่งขันเต้นรำแบบดั้งเดิม รวมไปถึงการแสดงบนเวที การประกวดนางงาม การแข่งขันวิ่งมาราธอน การแข่งขันกีฬาและกิจกรรมเพื่อความบันเทิงอื่นๆ

เทศกาลแสงไฟ Thingyut

การเฉลิมฉลองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองใน Myanmar นั้นเกี่ยวข้องกับคนในพื้นที่ประดับไฟและจุดเทียนทั่วอาคาร, บ้านเรือนและถนนเพื่อเป็นตัวแทนของบันไดอันล้ำค่าที่พระพุทธเจ้าทรงนำมาจากสวรรค์ขณะที่พระองค์ทรงเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปตามถนนที่จุดไฟสว่างไสวหรือเพลิดเพลินไปกับการชม zat pwes หรือละครเพลงดั้งเดิมของ Myanmar

เทศกาล Thingyan

จัดขึ้นในเดือนเมษายน เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน Myanmar นี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในงานเฉลิมฉลองด้วยตัวเอง ครอบครัวจะมารวมตัวเพื่อรับประทานอาหารร่วมกันและอวยพรให้กันและกัน ในเทศกาลซึ่งเป็นคาดหมายอย่างสูงนี้ คนในพื้นที่จะทำความสะอาดร่างกายและจิตใจให้หลุดพ้นจากความชั่วร้ายและสิ่งร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาโดยการรดน้ำกัน ค้นพบเทศกาลที่น่าตื่นเต้นที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมและประเพณีที่อุดมสมบูรณ์ของ Myanmar แต่ละเทศกาลซึ่งมีค่าน่าจดจำและเปี่ยมไปด้วยสนุกสนานจากการมีส่วนร่วมโดยบริสุทธิ์ใจของคนในพื้นที่ เข้าร่วมในการเฉลิมฉลองของพวกเขาและร่วมเป็นสักขีพยานในการชมขบวนพาเหรดอันงดงามของการบูชา แสงไฟ บอลลูนอากาศร้อนหรือแม้กระทั่งการแสดงที่น่าสนใจในเทศกาลต่างๆ ของ Myanmar